doggyland.org
ซื้อเพชรที่มีใบเซอร์เท่านั้น อย่างที่ผมย้ำเสมอๆครับ ถ้าเพชรที่ซื้อมีขนาดใหญ่กว่า 30 ตังค์ให้เลือกซื้อเพชรที่มีใบเซอร์จากสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับเช่น GIA, HRD, IGI, AGS หลายๆครั้งผู้ขายอาจพยายามกล่อมหรือให้ข้อมูลผิดๆ ประมาณว่า เพชรมีเซอร์ แพงกว่าเพชรไม่มีเซอร์ เยอะ ให้ซื้อแบบที่ไม่มีเซอร์ดีกว่า อันนี้บอกได้เลยครับว่าไม่จริง ถ้าเป็นเพชรคุณภาพเดียวกันจริง เพชรมีเซอร์ กับเพชรไม่มีเซอร์ ราคาจะต่างกันแค่ราคาเซอร์ไม่กี่พันเท่านั้นครับ 2. ซื้อเพชรที่มีเลเซอร์ที่ขอบเพชรเท่านั้น เพื่อความสบายใจและมั่นใจ การเลือกซื้อเพชรที่มีเลเซอร์ที่ขอบจะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าเพชรไม่ถูกสับเปลี่ยนภายหลัง บางครั้งเพชรเมื่อถูกส่งไปขึ้นตัวเรือนต้องผ่านมือ คนมากมาย ทั้งแมสเสนเจอร์, ช่าง, พนักงานบริษัท ฯลฯ ระหว่างทางย่อมเป็นไปได้ว่า อาจมีคนสับเปลี่ยนเพชรของเรา แต่ถ้าเพชรของเรามีเลเซอร์ที่ขอบ เราก็สามารถตรวจสอบได้เสมอครับ 3. ตรวจสอบเพชรอย่างละเอียดทั้งก่อนและหลังขึ้นเรือน เพื่อความรอบคอบ ควรวัดขนาดเพชรทั้ง กว้างxยาวxสูง และชั่งน้ำหนักเพชร เพื่อตรวจสอบว่าตรงกับใบเซอร์หรือไม่ และเมื่อเพชรถูกฝังในตัวเรือนแล้วก็ควรตรวจสอบขนาด รวมทั้งเลเซอร์ที่ขอบอีกครั้ง และถ้าจะให้ละเอียดยิ่งกว่านั้น ควรขอดูตำแหน่งของตำหนิทั้งก่อนและหลังขึ้นตัวเรือน ตำแหน่งและลักษณะของตำหนิในเพชรแต่ละเม็ด เปรียบได้กับลายนิ้วมือของคนแต่ละคน ครับ ใช้ในการยืนยัน Identity ได้เป็นอย่างดี แต่การดูตำหนิอาจเป็นเรื่องค่อนข้างยาก โดยเฉพาะร้านเพชรที่ไม่มี Microscope มีแต่ Loupe และยิ่งยากขึ้นไปอีกเมื่อเพชรอยู่ในตัวเรือนแล้ว 4.
ไปที่หน้า เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และซัพพลายเออร์: นำเสนอผลิตภัณฑ์ 2081 แหวนเพชร ปลอม ประมาณ 1% ของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ มี แหวน, 1% มี แหวน และ 1% มี แหวนนาฬิกา มีตัวเลือก แหวนเพชร ปลอม จำนวนมากให้กับคุณ เช่น zircon, diamond และ crystal, rhinestoneคุณยังสามารถเลือกได้จาก claw setting, micro insert และ channel setting แหวนเพชร ปลอม อีกทั้งจาก women's, unisex และ men's แหวนเพชร ปลอม. และไม่ว่า แหวนเพชร ปลอม จะเป็น trendy, classic หรือ romantic มีซัพพลายเออร์ 152 แหวนเพชร ปลอม เจ้า โดยหลักแล้วอยู่ในเอเชีย ประเทศหรือภูมิภาคผู้จำหน่ายหลักคือ จีน, อินเดีย และ เกาหลีใต้ ซึ่งนำเสนอสินค้า แหวนเพชร ปลอม ให้กับ 94%, 1% และ 1% ตามลำดับ
ถ้าเป็นเพชรเทียมจะมีสีอื่นๆ เข้ามาปะปน นี่จึงถือว่าเป็นวิธีการดูเพชรแบบเบสิกและสามารถทำได้ที่บ้านแบบชิวๆ อีกด้วย 4. ตรวจสอบด้วยการชั่งน้ำหนักของเพชร การตรวจดูน้ำหนักของเพชรก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยให้คุณรู้ว่า นั่นคือเพชรแท้หรือเพชรปลอม! เพราะในหลักความเป็นจริงแล้ว เพชรปลอมมักจะมีน้ำหนักที่มากกว่าเพชรจริงอยู่ประมาณครึ่งเท่า ยกตัวอย่างเช่น เพชรของเรามีขนาดหน้าตัด 10 มิลลิเมตร น้ำหนักก็จะอยู่ที่ประมาณ 1 กะรัต แต่! ถ้ามากกว่านั้น ก็ให้สงสัยได้เลยว่าคุณอาจจะมีเพชรปลอมอยู่ในครอบครองนั่นเอง 5. มองด้วยตาก็สามารถดูเพชรแท้เพชรปลอมได้! วิธีการดูเพชรที่หลายๆ คนยังไม่เคยรู้เลยก็คือ… การดูเพชรด้วยตาเปล่า+กระดาษที่มีตัวอักษร โดยให้คุณนำเพชรมาคว่ำหน้าลงกับกระดาษ ซึ่งถ้าเป็นเพชรแท้คุณจะไม่สามารถมองเห็นตัวอักษรได้ เพราะเพชรแท้มีการหักเหแบบเดี่ยว แต่! ถ้าเป็นเพชรปลอมคุณจะสามารถมองเห็นตัวอักษรได้อย่างชัดเจน เพราะเพชรปลอมจะมีการหักเหแบบคู่ยังไงล่ะ 6. ทดสอบเพชรแท้หรือปลอมด้วยลมหายใจ วิธีการดูเพชรแบบวิถีชาวบ้านที่ง่ายมากๆ จนหลายๆ คน คาดไม่ถึงเลยก็คือ… การหายใจใส่เพชรหรือ Foggy Test โดยถ้าเป็นเพชรจริง จะไม่มีการเกิดฝ้าหรือไอน้ำที่เกาะอยู่บนตัวเพชรเลยแม้แต่นิดเดียวหรือถ้ามีก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว!
ทดสอบจากการใช้ความร้อน (Heat the Stone test) เป็นวิธีการทดสอบที่เหมาะสำหรับ เพชรเม็ดเปลือยเช่นกัน วิธีการ คือ จุดไฟแช็ค ลนเม็ดเพชร ประมาณ 30 วินาที จากนั้น หย่อนเม็ดเพชรลงในน้ำเย็น เพชรแท้: จะไม่เกิดปฏิกิริยา หรือความเปลี่ยนแปลงใดๆ เพราะ มีความแข็งแรงและทนความร้อนสูง เพชรปลอม: เช่น เพชรสังเคราะห์ (Cubic Zirconia) จะเกิดการแตกร้าว เพราะคุณสมบัติที่แข็งแรงไม่เท่าเพชรแท้ 4. ทดสอบด้วยการใช้แสงยูวี ( UV light test) เป็นวิธีการทดสอบที่ใช้ได้กับทั้งเม็ดเพชร และเพชรที่ฝังในเครื่องประดับ วิธีการ คือ ส่องเพชรในที่มืด ด้วยแสงอุลตราไวโอเลตชนิดคลื่นสั้น (UV light) เพชรแท้: เปล่งประกายสีฟ้า เพชรปลอม: จะไม่เปล่งประกายแสงสีฟ้า 5.