doggyland.org
เทียนหอมไล่ยุง เลือกไซต์นี้ หน้าแรก กิตติกรรมประกาศ โครงงานISเรื่อง เทียนหอมไล่ยุง บทคัดย่อ ผู้จัดทำ หน้าแรก กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ ผู้จัดทำ โครงงานISเรื่อง เทียนหอมไล่ยุง บทที่ 1 บทนำ บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง บทที่ 3 วิธีการดำเนินการ บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน บทที่ 5 ผลการทดลอง แผนผังเว็บไซต์ โครงงานISเรื่อง เทียนหอมไล่ยุง โครงงานis เรื่อง... เทียนหอมไล่ยุง! หน้าเว็บย่อย (5): บทที่ 1 บทนำ บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง บทที่ 3 วิธีการดำเนินการ บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน บทที่ 5 ผลการทดลอง Comments
1 เทคนิคการเขียน คือ เขียนบรรยายเป็นข้อๆ ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ศึกษาเรื่องอะไร กับใคร และในแง่มุมใด 3. 2 หลักการเขียน คือ ต้องสอดคล้องกับคำถามวิจัยหรือประเด็นที่ผู้วิจัยใคร่รู้ ใน 4 ลักษณะ ก. การวิจัยแบบสำรวจ ข. การวิจัยแบบเปรียบเทียบ ค. การวิจัยแบบทดลอง ง. การวิจัยแบบความสัมพันธ์ 3. 3 ต้องสอดคล้องกับหัวข้อและส่วนอื่นๆในโครงร่างงานวิจัย ตอนที่ 4 เทคนิคการตั้งสมมุติฐานสำหรับงานวิจัย 4. 1 สมมุติฐาน คือ คำตอบที่ผู้วิจัยคาดคะเนไว้ล่วงหน้าอย่างมีเหตุผล เพื่อตอบความมุ่งหมาย (วัตถุประสงค์) ของการวิจัยที่ตั้งไว้ 4. 2 สมมุติฐานการวิจัย มี 2 ชนิด ก. แบบมีทิศทาง ถ้าเป็นการวิจัยเปรียบเทียบ จะมีคำว่า "มากว่า", "น้อยกว่า", "สูงกว่า", "ต่ำกว่า" อยู่ในสมมุติฐานนั้น ถ้าเป็นการวิจัยแบบหาความสัมพันธ์ จะมีคำว่า "สัมพันธ์กันทางบวก", "สัมพันธ์กันทางลบ" ข. แบบไม่มีทิศทาง ถ้าเป็นการวิจัยเปรียบเทียบ จะมีคำว่า "แตกต่างกัน" อยู่ในสมมุติฐานนั้น ถ้าเป็นการวิจัยแบบหาความสัมพันธ์ จะมีคำว่า "สัมพันธ์กัน" 4. 3 ลักษณะของงานวิจัยที่ต้องตั้งสมมุติฐาน มี 3 ลักษณะ คือ ก. แบบเปรียบเทียบ ข. แบบหาความสัมพันธ์ ค. แบบทดลอง ตอนที่ 5 กรอบแนวคิดงานวิจัย 5.
การเขียนรายงานโครงงานเป็นรูปแบบหนึ่งของการนำเสนอผลงานของโครงงานที่ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าตั้งแต่ต้นจนจบ การกำหนดหัวข้อในการเขียนรายงานโครงงานอาจไม่ระบุตายตัวเหมือนกันทุกโครงงา น ส่วนประกอบของหัวข้อในรายงานต้องเหมาะสมกับประเภทของโครงงานและระดับชั้นของผู้เรียน องค์ประกอบของการเขียนรายงานโครงงาน แบ่งกว้างๆ เป็น ๓ ส่วน ดังนี้ 1. ส่วนปกและส่วนต้น ส่วนปกและส่วนต้น ประกอบด้วย 1) ชื่อโครงงาน 2) ชื่อผู้ทำโครงงาน ชั้น โรงเรียน และวันเดือนปีที่จัดทำ 3) ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา 4) คำนำ 5) สารบัญ 6) สารบัญตาราง หรือภาพประกอบ (ถ้ามี) 7) บทคัดย่อสั้นๆ ที่บอกเค้าโครงอย่างย่อๆ ซึ่งประกอบด้วย เรื่อง วัตถุประสงค์ วิธีการศึกษา ระยะเวลา และสรุปผล 8) กิตติกรรมประกาศ เพื่อแสดงความขอบคุณบุคคล หรือหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง 2.
ลักษณะของกลุ่มตัวอย่าง 1. บางส่วนของประชากร 2. เป็นตัวแทนที่ดีของประชากร ข. หลักการเลือกกลุ่มตัวอย่าง ประเภทที่ 1 เลือกโดยใช้ทฤษฎีความน่าจะเป็น 1. สุ่มอย่างง่าย (Sample Random Sampling) 2. สุ่มตามระดับชั้น (Stratified Random Sampling) 3. สุ่มแบบมีระบบ (Systematic Random Sampling) 4. สุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ประเภทที่ 2 เลือกโดยไม่ใช้ทฤษฎีความน่าจะเป็น 1. เลือกตามสะดวก (Convenience Sampling) 2. เลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) 3. เลือกแบบกำหนดสัดส่วน (Quota Sampling) ค. การกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่าง (จำเป็นอย่างยิ่งกับงานวิจัยเชิงสำรวจ) 1. คำนวณจากสูตร 2. กำหนดเป็นร้อยละ – ถ้าประชากรมีจำนวนเป็นร้อย ควรใช้กลุ่มเป้าหมายประมาณ 25%ของประชากรทั้งหมด – ถ้าประชากรมีจำนวนเป็นพัน ควรใช้กลุ่มเป้าหมายประมาณ 10%ของประชากรทั้งหมด – ถ้าประชากรมีจำนวนเป็นหมื่น ควรใช้กลุ่มเป้าหมายประมาณ 10%ของประชากรทั้งหมด 3. ใช้ตารางสำเร็จรูป – ใช้ตารางของ Yamane เมื่อสถิติที่ใช้เป็นร้อยละ – ใช้ตารางของ ศิริชัย กาญจนวาสีและคณะ เมื่อสถิติที่ใช้เป็นค่าเฉลี่ย 7. 2 เครื่องมือวิจัย 7. 2. 1 การออกแบบสร้างเครื่องมือการวิจัย ก.
แบบฟอร์มโครงร่างโครงงาน (ฉบับย่อ) โครงร่างโครงงาน หัวข้อโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อการศึกษาภาษาอังกฤษ ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน Kanlayaphat Loysak ข้าพเจ้า 1. ด. ช. ชินาธิป ศาลานิยะธรรม ชั้น ม. 3/8 รหัสประจำตัว 4 2. ช. มณเฑียร ริ้มพิบูล ชั้น ม. 3/8 รหัสประจำตัว 9 3. ช. รวิศ เกิดวิเชียร ชั้น ม. 3/8 รหัสประจำตัว 23 4. ช. มงคล รัตนโพธ์เศรษฐ ชั้น ม. 3/8 รหัสประจำตัว 24 ที่มาและความสำคัญ (ของการทำโครงงานนี้ มีการอ้างอิงว่าข้อมูลที่เรานำมาเขียนนี้มาจากแหล่งใด โดยให้นักเรียนใส่อ้างอิงแบบนามปี เช่น (สมศรี, 2550) ดูตัวอย่างได้จากการเขียนโครงร่างโครงงาน) เป็น โครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการ ผลิตสื่อเพื่อศึกษา โดยการสร้างโปรแกรม Power Point ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวนและคำถามคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1. ใช้โปรแกรมสะดวก 2. อยากให้เด็กมีความรู้เกี่ยวกับ PowerPoint 3. ฝึกการใช้โปรแกรม PowerPoint 4.
โครง khro:hng M contents of this page 1. framework; skeleton; structure; form 2. [numerical classifier for skeletons; structures] 3. ribs Royal Institute - 1982 โครง /โคฺรง/ [นาม] ร่างของสิ่งต่างๆ ที่คุมกันอยู่เป็นรูป เช่น โครงกระดูก โครงว่าว. pronunciation guide Phonemic Thai โคฺรง Royal Thai General System khrong 1.
ต้องการให้เด็กเรียนรู้เกียวกับภาษาอังกฤษมากขึ้น วิธีการดำเนินการ ( เขียนเป็นข้อๆ ให้เป็นลำดับขั้นตอน) กำหนดหัวข้อ ศึกษาหาข้อมูล เรียบเรียงข้อมูล นำมาเขียนใน Power Point 5. นำเสอนผลงาน ระยะเวลาดำเนินการ ประมาณ 1 เดือน ที่ กิจกรรม * ระยะเวลาปฏิบัติงาน (เดือนที่) 3 4 6 7 8 9.
ศิลปะ kk5: โครงงานศิลปะ